Cardano คืออะไร

Cardano (คาร์ดาโน) คือแพลตฟอร์มบล็อกเชนแบบไม่มีตัวกลางที่ใช้ระบบ Proof of Stake ที่ออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพมากกว่าระบบ Proof of Work ที่เปิดตัวโดย Bitcoin

ความสามารถในการขยายตัวเพื่อรองรับธุรกรรมที่เพิ่มขึ้น, ความสามารถในการทำงานข้ามบล็อกเชน, ความยั่งยืน, ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น, การใช้พลังงานและระยะเวลาธุรกรรมที่ล่าช้าคือหลักการสำคัญเบื้องหลังการพัฒนาบล็อกเชน

สกุลเงินประจำบล็อกเชนนี้คือ ADA

Cardano คืออะไร

ก่อนจะเป็น Cardano

แพลตฟอร์มบล็อกเชนนี้ได้รับการพัฒนาตั้งแต่ปี 2558 และเปิดตัวในปี 2560 โดยคุณ Charles Hoskinson หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Ethereum ที่ออกจาก Ethereum เนื่องจากความขัดแย้งกับคุณ Vitalik Buterin

เขาตัดสินใจก่อตั้งบริษัท IOHK กับอดีตเพื่อนร่วมงานจาก Ethereum ซึ่งธุรกิจหลักของบริษัทคือการพัฒนา Cardano และก่อตั้งมูลนิธิคาร์ดาโนและอีเมอร์โก

คำว่า “คาร์ดาโน” มาจากชื่อนักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลีนามว่า “Gerolamo Cardano”

ทำความรู้จักกับ Cardano

Cardano คือบล็อกเชนและ ADA คือเหรียญที่ใช้บนเครือข่ายบล็อกเชน ซึ่งคล้ายคลึงกับ Ether ที่ใช้บนเครือข่าย Ethereum

Bitcoin คือบล็อกเชน 1.0 ที่เสนอระบบการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์สำหรับการโอนคริปโตเคอเรนซีอย่างปลอดภัย แต่บล็อกเชนรุ่นนี้ไม่ได้มอบสภาพแวดล้อมสำหรับการชำระราคาที่ซับซ้อนและแอปพลิเคชันทางการเงินแบบไม่มีตัวกลาง (Dapp)

Ethereum คือบล็อกเชน 2.0 ที่มอบโซลูชันที่ดีขึ้นสำหรับการเขียนและการใช้สมาร์ทคอนแทรค การพัฒนาแอปพลิเคชันและการสร้างโทเคนประเภทต่าง ๆ แต่บล็อกเชน 2.0 มาพร้อมกับปัญหาเรื่องความสามารถในการขยายตัวเพื่อรองรับธุรกรรมที่เพิ่มขึ้น

Cardano คือบล็อกเชน 3.0 ที่รวมข้อดีของบล็อกเชนรุ่นก่อนหน้าและปรับปรุงข้อด้อยของบล็อกเชนรุ่นก่อนหน้า

ADA คืออะไร

ADA คือสกุลเงินประจำบล็อกเชนคาร์ดาโน หน่วยเงินย่อยของสกุลเงินนี้คือ Lovelace ซึ่ง 1 ADA = 1,000,000 Lovelace

คำว่า “ADA” มาจากชื่อนักคณิตศาสตร์สาวชาวอังกฤษนามว่า “Ada Lovelace” เธอยังเป็นโปรแกรมเมอร์คนแรกของโลกอีกด้วย

คุณสามารถใช้ ADA จ่ายค่าธุรกรรมที่เกิดขึ้นบนบล็อกเชน นอกจากนี้ ผู้ตรวจสอบจะได้รับสกุลเงินประจำบล็อกเชนสำหรับการยืนยันความถูกต้องธุรกรรมและสร้างบล็อกใหม่บนบล็อกเชน

คุณสามารถซื้อ ADA ผ่านตลาดซื้อขายคริปโตชั้นนำอย่างเช่น Binance, Coinbase, Kraken จนถึงตลาดซื้อขายชั้นนำของไทยอย่าง Bitkub เป็นต้น

Cardano ทำงานอย่างไร

เนื่องจากเครือข่ายบล็อกเชนต้องการวิธียืนยันความถูกต้องของธุรกรรมเพื่อป้องกันการใช้เหรียญเดียวกันสองครั้งโดยไม่พึ่งพาตัวกลาง

Bitcoin และ Ethereum แก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยใช้ระบบ Proof of Work ที่ใช้การแก้ไขสมการทางคณิตศาสตร์เพื่อยืนยันความถูกต้องของธุรกรรมและสร้างบล็อกใหม่บนบล็อกเชน ซึ่งใช้เวลานานและจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะทางที่มีราคาแพงและกินไฟมหาศาล

แต่ Cardano ใช้ระบบ Proof of Stake ที่ผู้เข้าร่วมเครือข่ายต้องวางคริปโตในจำนวนที่กำหนดเพื่อมีสิทธิเข้าร่วมในการยืนยันความถูกต้องของธุรกรรมและสร้างบล็อกใหม่บนบล็อกเชน

ข้อดี

เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า: จากบทสัมภาษณ์กับ Forbe เมื่อปีที่แล้ว คุณ Charles Hoskinson กล่าวอ้างว่า Cardano ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า Bitcoin มากกว่า 1.6 ล้านเท่า

ประมวลผลธุรกรรมรวดเร็วกว่า: ขณะที่ Bitcoin สามารถประมวลผล 4.6 ธุรกรรมต่อวินาที ส่วน Ethereum อยู่ที่ 15 ถึง 45 ธุรกรรมต่อวินาที แต่ Cardano สามารถประมวลผลถึง 250 ธุรกรรมต่อวินาที

ตรวจสอบโดยนักวิชาการ: ทีมงานคาร์ดาโนทำงานอย่างใกล้ชิดกับสถาบันวิชาการต่าง ๆ เพื่อสร้างงานวิจัยที่ผ่านการตรวจสอบและทบทวนจากนักวิชาการคนอื่น ๆ จนถึงกำหนดทิศทางการพัฒนาบล็อกเชน

ข้อเสีย

ไล่ตามคู่แข่ง: คาร์ดาโนพยายามสร้างบล็อกเชนรุ่นที่ดีกว่า แต่คู่แข่งอย่าง Ethereum มีข้อได้เปรียบกว่าหลายประการ แถมการที่ Ethereum จะอัปเกรดเป็นรุ่น 2.0 ที่ใช้ระบบ Proof of Stake อาจทำให้ข้อได้เปรียบของบล็อกเชนจากบริษัท IOHK หมดไป

ยากที่จะโดดเด่น: ในยุคที่คริปโตมีมากมายจนจำไม่หวาดไม่ไหว การที่จะทำให้ผู้คนสนใจและจดจำคริปโตเป็นเรื่องยาก ดูตัวอย่างจาก Dogecoin ที่เป็นเพียงแค่เหรียญมีมก็สามารถทำให้ตลาดคริปโตคึกคักและที่เป็นรู้จักของคนทั่วไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ Cardano ไม่มี

สรุป

คาร์ดาโน (Cardano) คือแพลตฟอร์มบล็อกเชนแบบไม่มีตัวกลางที่ใช้ระบบ Proof of Stake ในการตรวจสอบธุรกรรมและสร้างบล็อกใหม่บนบล็อกเชน

สกุลเงินประจำบล็อกเชนคือ ADA ซึ่งสามารถใช้จ่ายค่าธุรกรรมที่เกิดขึ้นบนบล็อกเชน, วางค้ำประกันเพื่อรับผลตอบแทนจากการมีส่วนร่วมกับเครือข่ายคาร์ดาโน

หากคุณต้องการตรวจสอบธุรกรรมย้อนหลัง คุณสามารถตรวจสอบได้ที่ Cardanoscan.io ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์และสำรวจบล็อกเชนสำหรับ Cardano โดยเฉพาะ

Reference