สำหรับนักลงทุนมือใหม่ ก่อนที่จะเริ่มเทรดควรเข้าใจรูปแบบการเทรดหลัก ๆ เสียก่อน โดยทั่วไปจะมี 2 รูปแบบคือ การเทรดแบบ Future และการเทรดแบบ Spot เพื่อเป็นการไม่เสียเวลาในบทความนี้ก็จะมาเริ่มอธิบายเรื่องกันเทรดแบบ Future กันก่อน ว่าการเทรดรูปแบบนี้คืออะไร และมีหลักการอย่างไร ลองมาดูกันเลย
ลักษณะการเทรดแบบ Future
สำหรับการเทรดแบบ Future จะมีลักษณะเป็นการลงทุนล่วงหน้าด้วยการการซื้อขายสัญญาของเหรียญไว้ก่อน แต่ยังไม่ได้ถือครองไว้ในมือ โดยข้อดีของการเทรดแบบนี้จะสามารถทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง
รูปแบบการเทรดแบบ Future มี 2 ประเภทคือ
- Long คือการที่เราเลือกว่าราคาของเหรียญจะขึ้น และถ้าราคาขึ้นจริงก็จะได้กำไร แต่ถ้าตรงข้ามก็จะขาดทุน
- Short คือการที่เราเลือกว่าราคาของเหรียญจะลง และถ้าราคาลงจริงก็จะได้กำไร แต่ถ้าตรงข้ามก็จะขาดทุน
กลยุทธ์ที่น่าสนใจสำหรับการเทรดแบบ Future คือ Leverage นั่นคือ การยืม Margin เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลกำไร แต่แน่นอนก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสในการขาดทุนที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน
ตัวอย่างของกลยุทธ์ Leverage
เช่น คุณลงทุนกับ Near 100 บาท และมีการกำหนด Leverage อยู่ที่ x 10 หากราคาของ Near ขึ้น 10% ผลกำไรก็จะถูกคูณ 10 กลายเป็น 100% แต่ในทางตรงข้ามคุณก็สามารถขาดทุน 100% ได้เช่นกัน
** การลงทุนรูปแบบนี้มีความเสี่ยงเป็นพิเศษดังนั้นก่อนการลงทุนควรศึกษาให้ดี เพราะหากขาดทุนอาจจะเป็นการขาดทุนถึงขั้นพอร์ตแตกเลยทีเดียว