Value zone – จังหวะที่เหมาะสม

Value zone – จังหวะที่เหมาะสม

คีย์สำคัญการเทรดทุกตลาดเลย ไม่ได้รวมอยู่แค่ตลาด Forex ยังรวมถึงในตลาดหุ้น ตลาดพันธบัตร ตลาดฟิวเจอร์ ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ คือ เราจะเข้าซื้อเมื่อคิดว่าราคาต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น คาดการณ์ว่ามันจะขึ้นในอนาคต และ เราจะขายเมื่อคิดว่าราคาสูงกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น คาดการณ์ว่ามันจะลงในอนาคต ซึ่งสิ่งนี้สามารถใช้ได้ในหลักของพื้นฐาน (Fundamental) และ Technical ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน

ไม่มีใครจะ ซื้อ ราคามากกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น ณ ขณะนั้น อยู่แล้วแหละ และเช่นเดียวกันก็ไม่มีใครอยาก ขาย สินค้าที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น ณ ขณะนั้น … เราจะซื้อช่วงที่ราคาลงต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น และขายสินค้าที่ราคาสูงกว่ามูลที่ควรจะเป็นเช่นกัน

ในมุมของ Technical สามารถของมูลค่า (Value) ได้จากช่วงห่างระหว่างเส้นค่าเฉลี่ย EMA 2 เส้น (จริงๆยังมีวิธีอื่น แต่ในส่วนนี้จะกล่าวถึงเส้น EMA เป็นหลัก เนื่องจากใช้งานง่าย และค่อนข้างมีประสิทธิภาพ)

ปกติเส้นค่าเฉลี่ย EMA เส้นสั้น จะแสดงถึงแนวโน้มระยะสั้นของราคาในช่วงนั้น ว่ามีมูลค่าเฉลี่ยเท่าไหร่ และเส้นยาว จะแสดงถึงแนวโน้มระยะยาวของราคา ว่ามีมูลค่าเฉลี่ยเท่าไหร่เช่นกัน ซึ่งสามารถนำช่วงห่างระหว่างเส้นค่าเฉลี่ย สั้น และ ยาว มาเป็นตัวแทนในการกำหนด มูลค่า ของราคาสินค้าที่จะเทรด

value zone

จากกราฟเราใช้เส้นค่าเฉลี่ย EMA 20 และ 40 วัน โดย 20 วันเป็นตัวแทนของค่าเฉลี่ยระยะสั้น และ 40 วันเป็นตัวแทนของค่าเฉลี่ยระยะยาว

– เราจะหาจังหวะเข้าซื้อ เมื่อราคาอยู่ใน Value zone จากกราฟในช่วงแนวโน้มขาขึ้นฝั่งขวามือ ช่วงที่ราคา Pullback ตามวงกลมสีส้มเป็นจังหวะที่เข้าซื้อที่ดี และส่วนในแนวโน้มขาลงฝั่งซ้ายมือ ช่วงที่ราคา rebound ขึ้นในอยู่ในช่วง Value zone ก็เป็นจังหวะขาย (Short) ที่ดีเช่นกัน

นี่เป็นตัวอย่างในการหาจังหวะการในเข้า ซื้อ และ ขาย ในการพิจารณาจาก Value zone โดยใช้เครื่องมือทาง Technical อย่างเส้นค่าเฉลี่ย EMA 2 เส้นในการกำหนดมูลค่า แต่อย่างไรก็ดีการเทรดที่ประสบความสำเร็จควรใช้เครื่องมือหลายๆตัวในการประกอบการเทรด เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดให้ได้มากที่สุด