DAO คืออะไร

DAO คืออะไร

องค์กรอัตโนมัติแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Autonomous Organization) หรือ DAO คือองค์กรรูปแบบหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่จะอยู่กับสมาชิกทุกคนภายในองค์กรที่มีเป้าหมายร่วมกันและพยายามขับเคลื่อนองค์กรโดยยึดผลประโยชน์ขององค์กรเป็นที่ตั้ง

องค์กรอัตโนมัติแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Autonomous Organization) หรือ DAO

ประเภทของ DAO

  1. โปรโตคอลแบบ DAO: เน้นการบริหารโปรโตคอลแบบกระจายอำนาจ เช่น MakerDAO หนึ่งในโครงการ DeFi แรก ๆ บนบล็อกเชน Ethereum ที่ใช้สมาร์ทคอนแทรคในการให้ยืมและกู้ยืมคริปโต
  2. การกุศลแบบ DAO: สนับสนุนการริเริ่มความรับผิดชอบทางสังคม เช่น Endaoment ที่มีพันธกิจในการกระตุ้นและการบริหารการบริจาคคริปโตเคอเรนซีเพื่อการกุศล
  3. การสะสมแบบ DAO: รวบรวมเงินทุนจากสมาชิกเพื่อเป็นเจ้าของ NFT และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ เช่น Flamingo DAO
  4. การลงทุนแบบ DAO: รวบรวมเงินทุนเพื่อลงทุนตามเป้าหมายที่กำหนด เช่น MetaCartel ที่เน้นการลงทุนใน dApp ใหม่เพื่อทำกำไร ซึ่งเป็นช่องทางการเข้าลงทุนระยะเริ่มต้นที่ง่าย
  5. ทุนการช่วยเหลือแบบ DAO: มอบเงินทุนและ/หรือการสนับสนุนแก่โครงการหรือการร่วมทุนใหม่ เช่น Aave Grants DAO ที่มอบเงินทุนให้แก่โครงการ, แนวคิดหรือกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อ Aave และระบบนิเวศน์ของ Aave

DAO ทำงานอย่างไร

การเข้าร่วมองค์กรอัตโนมัติแบบกระจายศูนย์มีหลากหลายช่องทาง แต่การเป็นเจ้าของโทเคนได้รับความนิยมมากที่สุด

การดำเนินงานของ DAO พึ่งพาสมาร์ทคอนแทรคอย่างมาก

สมาร์ทคอนแทรคคือสัญญาที่ดำเนินการด้วยตนเองตามเงื่อนไขที่กำหนดโดยคู่สัญญาอันฝังอยู่ในบรรทัดโค้ด ซึ่งขับเคลื่อนบนเครือข่ายบล็อกเชนอย่างเช่น Ethereum, Cardano, Solana เป็นต้น

สมาร์ทคอนแทรคจะกำหนดกฎและถือครองเงินทุนขององค์กร ซึ่งมีแต่การลงคะแนนของสมาชิกที่สามารถเปลี่ยนกฎได้ และการที่เงินทุนอยู่ภายใต้สมาร์ทคอนแทรคทำให้ไม่มีใครสามารถใช้เงินทุนขององค์กรโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกขององค์กร

สิทธิ์การลงคะแนนมักกระจายไปยังสมาชิกของ DAO ตามจำนวนโทเคนที่ถือครอง เช่น สมาชิกที่ถือครอง 200 โทเคนจะมีสิทธิ์การลงคะแนนมากกว่าสมาชิกที่ถือครอง 100 โทเคนเป็นสองเท่า โดยกระบวนการลงคะแนนจะถูกประกาศลงบนบล็อกเชน

เหตุผลเบื้องหลังของการลงคะแนนลักษณะนี้คือ สมาชิกที่ลงทุนด้วยเงินจำนวนมากจะมีแรงจูงใจที่จะดำเนินการด้วยความสุจริตใจ เพราะหากเขาดำเนินการด้วยไม่ความสุจริต เขาจะได้รับผลกระทบจากการดำเนินการดังกล่าว

ข้อดีของ DAO

กระจายอำนาจ: แทนที่องค์กรจะขับเคลื่อนผ่านการตัดสินใจของซีอีโอหรือคณะผู้บริหาร แต่ DAO มอบอำนาจดังกล่าวให้กับสมาชิกทุกคนในองค์กร

การมีส่วนร่วม: สมาชิกมีส่วนร่วมในการเสนอแนะและตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ขององค์กร ถึงแม้สมาชิกแต่ละคนมีคะแนนเสียงไม่มาก แต่ DAO กระตุ้นให้สมาชิกให้ลงคะแนนเสียง, เผาเหรียญหรือใช้โทเคนในแบบที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กรมากที่สุด

การเผยแพร่สู่สาธารณะ: เนื่องจากการลงคะแนนกระทำบนบล็อกเชนและเปิดเผยแก่สาธารณชน ทำให้สมาชิกต้องดำเนินการในสิ่งที่เขาคิดว่าดีที่สุด ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อชื่อเสียงของเขาและผลประโยชน์ขององค์กร

ชุมชน: คอนเซ็ปต์ของ DAO เปิดกว้างให้กับผู้คนที่มีแนวคิดเดียวกันจากทั่วโลกมารวมตัวกัน

ข้อเสียของ DAO

ความเร็ว: ถึงแม้ DAO จะเปิดกว้างให้สมาชิกทุกคนขององค์กรมีสิทธิ์ลงคะแนน แต่นั่นก็มาพร้อมกับความล่าช้าในการตัดสินใจดำเนินการกว่าองค์กรแบบดั้งเดิมที่อาจต้องการเพียงแค่เสียงของซีอีโอในการดำเนินการ

การศึกษา: เนื่องจากองค์กรรูปแบบนี้ประกอบด้วยสมาชิกจำนวนมากที่มีประวัติการศึกษา, ความรู้ความเข้าใจ, ผลประโยชน์หรือการเข้าถึงทรัพยากรที่แตกต่างกัน การทำให้ผู้ถือโทเคนที่มีความแตกต่างกันสามารถขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกันถือเป็นเรื่องท้าทาย

ความไม่มีประสิทธิภาพ: DAO อาจไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ เนื่องจากต้องใช้เวลาไปกับการปรึกษาหารือมากกว่าการดำเนินการ ซึ่งอาจทำให้งานธุรการขององค์กรมีความล่าช้าแบบองค์กรแบบดั้งเดิม

ความปลอดภัย: หากโค้ดสมาร์ทคอนแทรคมีจุดอ่อน นั่นอาจส่งผลกระทบต่อ DAO เช่น เงินทุนถูกขโมย รวมถึงการเติบโตขององค์กรในอนาคต

สรุป

Decentralized Autonomous Organization (DAO) คือองค์กรรูปแบบหนึ่งที่ขับเคลื่อนโดยสมาชิกทุกคนขององค์กรที่มีเป้าหมายร่วมกันและขับเคลื่อนองค์กรโดยยึดผลประโยชน์ขององค์กรเป็นที่ตั้ง

การดำเนินงานของ DAO พึ่งพาสมาร์ทคอนแทรคเป็นอย่างมาก หากสมาร์ทคอนแทรคมีจุดอ่อนหรือข้อผิดพลาด ผู้ไม่หวังดีอาจเห็นช่องโหว่ของสมาร์ทคอนแทรคและฉกฉวยประโยชน์ในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงการขโมยเงินทุนขององค์กร

Reference