แนวทางการเก็บภาษี Cryptocurrency ของทั่วโลก

หนึ่งในมาตรการการกำกับดูแล Cryptocurrency ของทั่วโลกคือ “การเก็บภาษี” ซึ่งแต่ละประเทศจะมีแนวทางและหลักการเก็บภาษีที่แตกต่างกันออกไปตามบริบทของประเทศนั้น ๆ ลองมาดูกันเลยว่าในประเทศสำคัญ ๆ ทั่วโลกนั้นมีแนวทางการเก็บภาษีคริปโตฯ อย่างไรบ้าง

สหรัฐอเมริกา มีหลักการคล้ายกับการเก็บภาษีรายรับจากการซื้อขายหุ้น โดยมีอัตราการเก็บภาษี 0-37% ตามกำไรของหลักทรัพย์นั้น ๆ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับรายได้และระยะเวลาการถือครองคริปโตฯด้วย ทำให้บางคนอาจจะไม่ต้องเสียภาษีก็เป็นได้ ทั้งนี้กิจกรรมที่เกี่ยวกับคริปโตฯไม่ได้ถูกเก็บภาษีทั้งหมด แต่จะมีการแบ่งเป็นกิจกรรมที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี และกิจกรรมที่ต้องเสียภาษี ดังนี้

กิจกรรมที่ต้องเสียภาษี กิจกรรมที่ไม่ต้องเสียภาษี
1. การใช้คริปโตฯซื้อสินค้าและบริการ 1. การซื้อและครอบครองคริปโตฯ
2. การแลกเปลี่ยนคริปโตฯจากเหรียญหนึ่งไปอีกเหรียญ 2. การโอนคริปโตฯ ข้ามบัญชีของตัวเอง
3. การเปลี่ยนคริปโตฯเป็นเงินสด 3. การบริจาคให้หน่วยงานไม่แสวงหากำไรเพื่อลดหย่อนภาษี
4. การถือคริปโตฯเพื่อการลงทุน เช่น DeFi 4. การให้คริปโตฯเป็นของขวัญ

สวิตเซอร์แลนด์  การเก็บภาษีคริปโตฯ จะถูกแบ่งตามประเภทของบุคคลดังนี้

  • บุคคลทั่วไป – นิยามคริปโตฯ ในที่นี้จะถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ชนิดหนึ่ง และมีลักษณะคล้ายกับสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ จึงถูกเก็บเป็น ”ภาษีความมั่งคั่งหรือ Wealth Tax”
  • ผู้ที่มีอาชีพในการเทรดคริปโตฯ หรือเป็นนิติบุคคล – จะถูกเก็บเป็น “ภาษีกำไรจากการขายหลักทรัพย์ หรือ Capital Gain Tax”

** และหากมีการถือครองเพื่อการลงทุนเช่นการขุดคริปโตฯ จะถือว่าเป็น Self-employed ทำให้ต้องเสียเป็น “ภาษีเงินได้ หรือ Income Tax”

เยอรมนี มองว่ากำไรที่ได้จากการเทรดคริปโตฯ เป็นรายได้ประเภทหนึ่ง จึงมีการจัดเก็บเป็น “ภาษีเงินได้” แต่ทั้งนี้ก็มีการยกเว้นการจัดเก็บภาษีให้ด้วย ถ้าหากมีการถือครองคริปโตฯ เกิน 1 ปี หรือกำไรไม่เกิน 600 ยูโร/ปี

อินเดีย มีการจัดเก็บภาษีคริปโตฯด้วยอัตรา 30% จากกำไรที่ได้จากการเทรดและมีการเก็บเพิ่ม 1%ในทุกธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตฯ

ญี่ปุ่น นำรายได้ที่ได้จากการเทรดคริปโตฯอยู่ในหมวด “รายได้อื่น ๆ ” ซึ่งจะมีการเก็บภาษีด้วยอัตรา 45-55% แต่ทั้งนี้ก็นำรายได้ส่วนบุคคลมาร่วมคำนวณด้วย โดยหากรายได้ไม่เกิน 200,000 เยน/ปี ไม่ต้องเสียภาษี

จะเห็นได้ว่าในแต่ละประเทศจะมีแนวทางและมาตรการการจัดเก็บภาษีที่แตกต่างกันไป และคาดว่าต้องมีการปรับแก้ไขมาตราการการจัดเก็บนี้ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับการเติบโตของโลก Cryptocurrency ในอนาคตข้างหน้า