อาจจะฟังดูแปลกๆหน่อยนะครับ แต่ลองมาฟังเหตุผลดูว่าทำไมถึงต้องพูดอย่างงี้ … ลองคิดภาพตามว่า พวกนักฟุตบอลเค้าเรียนรู้ทักษะการเล่นฟุตบอลจากการแข่งจริงกันไหมละครับ หรือนักวิ่ง เข้าฝึกวิ่งการจากแข่งวิ่งกันหรือเปล่าครับ ไม่เลย! พวกเค้าฝึกฝนทักษะการกีฬาเหล่านั้นนอกเวลาแข่ง ใช้เวลาฝึกวันละหลายๆ ชม. เพื่อให้มีทักษะที่ดี ออกกำลังกายทุกวัน เพื่อให้ได้ร่างกายที่สมบูรณ์ แล้วจึงไปแข่งจริง ในส่วนเวลาแข่งจริงนั้น พวกเขาใช้การวางแผนการแข่งมากกว่าว่าจะเล่นไปในทางใด เพื่อให้ได้เปรียบมากที่สุด
ก็เหมือนกับการเทรดเช่นเดียวกัน ก่อนที่เราจะเทรดจริงนั้น เราก็ควรศึกษาหาความรู้ให้ดีก่อน สร้างวิธีการเทรดที่ถูกต้องและชัดเจน จำลองสถานการณ์ต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต และวิธีการรับมือกับมัน ออกแบบการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมกับบุคลิกและการชีวิตประจำวัน นำสิ่งต่างๆเหล่านี้สร้างแผนการเทรดขึ้นมา เพื่อที่เราจะนำมาใช้ในการเทรดจริงในสนามการเทรด Forex แห่งนี้
ในการเทรดจริงนั้น เราจะถูกสิ่งที่เรียกว่า “อารมณ์” ครอบงำตัวเรา ทำให้สติเราหลุดจากการเรียนรู้ในการเทรดจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ต้องระวังเป็นอย่างยิ่งกันนะครับ อีกอย่างหนึ่งที่อาชีพเทรดเดอร์ขาดไม่ได้เลยคือ “บันทึกการเทรด” … ทุกการเทรด ทุกออเดอร์ เทรดเดอร์ต้องจดและบันทึกไว้ ว่าทำไมต้องเข้า ผิดพลาดอะไรไหม ทำถูกต้องแล้วหรือเปล่าในการเทรดไม้นั้น จะเป็นตัวคอยเตือนเทรดเดอร์ว่าเคยทำอะไรผิดพลาดลงไปบ้าง เพื่อที่จะไม่กลับไปทำอีกในอนาคต
ตลาด Forex นั้นเต็มเป็นด้วยนักล่าเงินที่จะคอยนำเงินออกจากกระเป๋าเราทั้งสิ้น ไม่ต่างอะไรกับการแลกเปลี่ยนสินค้าต่างๆบนโลก ทุกเกมส์ล้วนแต่มีมืออาชีพที่เล่นเกมส์นั้นอยู่ เช่น แม่ค้าขายแตงโมเจ้าดัง ก็ต้องรู้ดีว่า แหล่งที่มารับแตงโมจากไหนถูก ขายเวลาไหนคนเยอะสุด ทำเลไหนดีสุด พูดอย่างไรแล้วคนซื้อ … แล้วถ้าอยู่ดีๆเราจะไปขายแตงโมแข่งกับแม่ค้ารายนี้ โดยที่ไม่มีความรู้และประสบการณ์อะไรเลย รับรองว่าไม่มีทางสู้ได้ สิ่งที่เราควรทำก่อนคือ ศึกษาเรียนรู้ วิธีการต่างๆ เพื่อให้เกิดความชำนาญ ก่อนที่จะลงไปแข่ง … การเทรด Forex ก็เช่นเดียวกันครับ